พายุเคลื่อนตัว (Tropical Cyclone) หรือที่เรียกกันว่าพายุเขตร้อนเป็นภูมิอากาศที่พัฒนาและเจริญเติบโตจากการรวมตัวของลมและความชื้นที่ผ่านพื้นที่ร้อนของมหาสมุทร พายุเคลื่อนตัวสามารถเป็นอันตรายมากเนื่องจากพวกมันอาจก่อให้เกิดสภาวะอากาศรุนแรง ฝนตกหนัก ลมแรง และสร้างคลื่นที่สูงขึ้นที่ทะเล นอกจากนี้ พายุเคลื่อนตัวยังสามารถก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงและส่งผลกระทบให้กับชีวิตและทรัพย์สินของคนในพื้นที่ที่ถูกส่งผ่านไปด้วย
สามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับพายุเคลื่อนตัวได้จากหน่วยงานที่มีความรับผิดชอบในการพยากรณ์อากาศของแต่ละประเทศพวกนี้มักจะมีเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสภาวะอากาศปัจจุบันและการพยากรณ์สภาวะอากาศในอนาคต เพื่อให้คุณสามารถติดตามและประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยอ่านต่อที่ napasechnik.com
ทำไมถึงเกิด พายุเคลื่อนตัว
พายุเคลื่อนตัวเกิดขึ้นเนื่องจากกระบวนการธรรมชาติในระบบอากาศที่มีการเคลื่อนไหว ปัจจัยหลายอย่างเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดพายุเคลื่อนตัว ดังนี้
- ความร้อนและความชื้น: พายุเคลื่อนตัวเกิดจากการรวมตัวของลมและความชื้นในพื้นที่ร้อน พื้นที่ที่มีอุณหภูมิร้อนและความชื้นสูงทำให้ลมร้อนที่จับจับความชื้นจากผิวพื้นที่นั้นๆ เริ่มจะเคลื่อนที่ขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศสูงขึ้น
- การหมุนของโลมาเติมซี: โลมาเติมซีหมุนเป็นรูปวงกลมตามลมโลมาเติม การหมุนนี้สร้างบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาพายุเคลื่อนตัวในท้องทะเล
- การเปลี่ยนแปลงของลม: การแตกร้าวหรือการเปลี่ยนแปลงของทิศทางลมที่ส่งผลให้ลมเริ่มหมุนเป็นรูปแบบวงกลม ทำให้เกิดเครื่องสร้างพายุเร็วขึ้น
- ความร้อนรอบๆ ดึกดำบรรพ์: เรื่องร้อนของดินและผิวท้องทะเลทำให้ลมที่ผ่านมาเริ่มร้อนขึ้น ทำให้ลมเริ่มขยายตัวและเริ่มสูงขึ้น เมื่อลมสูงสู่ชั้นบรรยากาศสูงขึ้น มันจะเริ่มหมุนไปในทิศทางทวนเข็มนาฬิกาในลักษณะของพายุ
- ความร้อนและความเย็นของน้ำทะเล: พื้นผิวน้ำทะเลที่อุณหภูมิสูงส่งเสริมการระเหยความร้อนไปยังอากาศเหนือ ทำให้อากาศร้อนเริ่มเคลื่อนที่ขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศสูงขึ้น อุณหภูมิเย็นของน้ำทะเลอาจเพิ่มความไม่เสถียรภาพของลมและสร้างโอกาสในการเกิดพายุ
พายุเคลื่อนตัวที่เดินทางไปทางเหนือมายังญี่ปุ่นและทำให้ลมเข้าแรงเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “พายุตะปูบ” หรือ Typhoon (ในภาษาอังกฤษ) เป็นพายุเซี่ยงไฮ้ที่ก่อให้เกิดอากาศร้อนและชื้นบริเวณทะเลเจาะจงในภาคตะวันออกของเอเชีย พายุเหล่านี้มักเกิดในฤดูร้อน-ฤดูฝนเมื่อทะเลที่อุณหภูมิสูงและความชื้นสูงส่งผลให้เกิดการอบอุ่นและรวมตัวกัน การอุ่นรวมนี้เป็นแรงสำคัญในการสร้างพายุที่มีพลังและระบายความร้อนและความชื้นขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศสูงขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อพายุเคลื่อนตัวจากทะเลที่อุณหภูมิสูงขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศสูงขึ้น เริ่มจะเกิดกระบวนการหมุนเป็นวงแกว่งทวนเข็มนาฬิกา (Coriolis effect) ที่กลับกันเป็นจุดเริ่มต้นในการหมุนของลม พายุจะเริ่มเลียนแบบโครงสร้างรอบตัวกลางที่ว่าจะกลับกันเป็นรูปวงกลม มากขึ้นเมื่อลมบรรจุความอบอุ่นและความชื้นอยู่ภายในพายุ
พายุที่เป็นรูปแบบของพายุตะปูบมักจะมีลมแรงและฝนห่าใหญ่ๆ ที่เข้ามาในทางเดียวกัน มันสามารถก่อให้เกิดพายุพัดลมและน้ำทะเลจู่ ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดภัยพิบัติและความเสี่ยงต่อคนและทรัพย์สิน ในพื้นที่ที่พายุจะผ่านเข้ามา การเตรียมตัวและการเฝ้าระวังเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการกับพายุเคลื่อนตัวแบบนี้ในประเทศที่เสียหายได้ง่ายจากพายุอย่างญี่ปุ่น
ขณะที่เกาหลีใต้เริ่มได้รับผลกระทบจากฝน
การรับผลกระทบจากฝนในเกาหลีใต้อาจส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมในพื้นที่ โดยเฉพาะเมื่อมีฝนตกหนักหรือฤดูฝนมาถึง ผลกระทบสามารถแก้ไขสภาพธรรมชาติและกิจกรรมของคนในพื้นที่ได้หลากหลายดังนี้
- สภาพอากาศ: การมีฝนตกมากจะทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง อาจมีการเพิ่มความชื้นในอากาศ และสภาพอากาศอาจเปลี่ยนไปจากแจ่มใสเป็นเมฆหรือฝนตก
- น้ำท่วม: ในบางพื้นที่ฝนตกหนักอาจน้ำท่วมขัง ทำให้ถนนและพื้นที่ต่าง ๆ มีน้ำท่วมขังและส่งผลกระทบต่อการเดินทางและการเคลื่อนไหว
- การเกษตร: ฝนที่ตกมากอาจส่งผลกระทบต่อการปลูกพืชและการเกษตร มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชและการเก็บเกี่ยว
- การพายุฝน: ฝนตกหนักอาจทำให้เกิดพายุฝนซึ่งอาจเป็นพายุที่มีลมแรง ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างและการเดินทาง
- ภัยน้ำท่วม: ฝนที่ตกหนักอาจเกิดการไหลล้นของแม่น้ำ สามารถเข้าถึงพื้นที่ต่าง ๆ และทำให้เกิดภัยน้ำท่วม
- การใช้น้ำ: การฝนตกอาจมีผลต่อการใช้น้ำในพื้นที่ เช่น การใช้น้ำในการเคลื่อนไหวหรือในการใช้ทางเกษตร
การรับผลกระทบจากฝนนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณฝนที่ตกลงมา ความชื้นในอากาศ และโครงสร้างธรรมชาติที่มีอยู่ในพื้นที่นั้น โดยการเตรียมตัวรับมือกับผลกระทบจากฝนมีความสำคัญ เช่น การเตรียมสำรวจสภาพสภาพอากาศ การเตรียมการป้องกันน้ำท่วม และการเป็นอยู่ระหว่างฤดูฝนที่จะเกิดขึ้น
เกาหลีใต้อยู่ในบริเวณภูมิประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีเนื้อที่ที่ห่างไกลจากภูมิภาคที่พบพายุเคลื่อนตัวมากขึ้นเป็นปกติ แต่ในบางช่วงของปี ฤดูร้อน-ฤดูฝน เกาหลีใต้ก็สามารถได้รับผลกระทบจากพายุหรือฝนที่มาจากทะเลในบริเวณใกล้เคียง โดยเฉพาะเมื่อพายุหรือฝนเข้ามาในทิศทางที่ทำให้ส่งผลกระทบต่อภูมิภาคนี้
ในฤดูฝนที่เกาหลีใต้เริ่มต้นได้รับผลกระทบจากฝน อาจเป็นเวลาที่ลมฝนเข้ามาในทะเลใกล้เคียง และเมื่อลมแรงเพียงพอสามารถกำจัดความร้อนและความชื้นบริเวณทะเลในบริเวณนั้นได้ มันจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดพายุหรือฝนในภูมิภาคนั้น การเฝ้าระวังพายุและการติดตามสภาพอากาศจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อการเตรียมความพร้อมและการป้องกันปรับตัวต่อภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ในระยะสั้นหรือยาวๆ ต่อไป