ป้ายแดงแท้ วิธีตรวจสอบผู้ซื้อรถใหม่ รู้ไว้ไม่เสี่ยงโดนปรับ-ติดคุก

ป้ายแดงแท้
ป้ายแดงแท้

การซื้อรถใหม่และต้องการตรวจสอบว่ารถเป็น ป้ายแดงแท้’ (รถยนต์ที่ไม่ได้มีประวัติการชนหรือเคลื่อนที่รุนแรง) เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนปรับหรือติดคุกเราสามารถทำได้โดยตรวจสอบข้อมูลเชิงประวัติของรถกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆดังนี้

  • ตรวจสอบในฐานข้อมูลสถิติรถยนต์มือสองป้ายแดง

คุณสามารถเข้าไปตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับป้ายแดงจากฐานข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก หรือเข้าไปในสถานีตำรวจทางหลวงที่รับผิดชอบในพื้นที่ของคุณ

  • ตรวจสอบหมายเลขป้ายทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

แนะนำให้คุณติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบในพื้นที่ของคุณ และแจ้งหมายเลขป้ายทะเบียนของรถที่คุณสนใจ เพื่อตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับป้ายแดงของรถนั้น

  • ตรวจสอบความเชื่อถือได้ของผู้ขายรถ

เลือกศึกษาและสอบถามเรื่องผู้ขายรถ หากเป็นผู้ขายรถมือหนึ่งที่เชื่อถือได้และมีความเชี่ยวชาญ มักจะประกอบการค้ารถที่มีความเป็นป้ายแดงแท้เท่านั้น

  • ตรวจสอบประวัติการเคลื่อนที่ของรถ

คุณสามารถตรวจสอบประวัติการเคลื่อนที่ของรถจากบันทึกการบำรุงรักษาและเปลี่ยนชิ้นส่วน รวมถึงการตรวจเช็คระยะทางที่ผ่านมา เพื่อความมั่นใจว่ารถไม่เคยเกิดเหตุการณ์ชนหรือเคลื่อนที่รุนแรง

  • ดูรูปภาพและเอกสารที่เกี่ยวข้อง

ขอรูปภาพรถจากมุมต่างๆ เพื่อเช็คสภาพของรถ

ขอเอกสารที่เกี่ยวข้องเช่น ใบจดทะเบียน พรบ. ฯลฯ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและความเป็นมาตรฐาน

การเลือกซื้อรถใหม่ควรทำการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบและศึกษาก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพื่อให้คุณได้รถที่มีคุณภาพและเป็นมาตรฐานตามที่คาดหวังสามารถดูข่าวสารอื่นๆได้ที่ napasechnik.com

ป้ายแดงแท้

การปลอมแปลงทะเบียนรถ ป้ายแดงแท้ มีความผิดอย่างไร

การปลอมแปลงป้ายแดงหรือทำการหลอกลวงในการขายรถยนต์มือสองเป็นการกระทำผิดกฎหมายและอาจเกิดความผิดในหลายด้าน ดังนี้

  • การปลอมป้ายแดง: การสร้างป้ายแดงปลอมเพื่อให้รถยนต์ดูเหมือนมีประวัติการใช้งานน้อยหรือไม่เคยเสียภาษีเข้าแถวรถยนต์ ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดเตรียมป้ายแดงและเจ้าของรถ
  • การปลอมเอกสาร: การปลอมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับป้ายแดง เช่น หลักฐานการตรวจสภาพรถยนต์ หลักฐานประวัติการใช้งาน หรือเอกสารการเปลี่ยนชื่อเจ้าของ
  • การซ่อนข้อมูล: การปิดบังหรือซ่อนข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประวัติการใช้งานรถ เพื่อไม่ให้ผู้ซื้อรู้ว่ารถเคยเข้าแถวรถยนต์หรือมีปัญหาต่างๆ
  • การเปลี่ยนแปลงข้อมูล: การเปลี่ยนแปลงข้อมูลเช่น ระยะทางที่เริ่มต้นของรถ หรือประวัติการจดทะเบียนเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ

การปลอมเอกสารราชการหรือใช้เอกสารราชการปลอมเป็นการกระทำผิดกฎหมายและอาจมีโทษรายละเอียดตามคำพิพากษาของศาล โดยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดประเภทเอกสารปลอม พ.ศ. 2550 มาตรา 3 จำแนกลักษณะความผิดตามความเสี่ยงการใช้เอกสารปลอมหรือเอกสารที่ผิดจากความจริงขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่จะใช้ เช่น

  • การกระทำในความผิดสาธารณะ: โดยการใช้เอกสารปลอมเพื่อประโยชน์ในเรื่องส่วนรวม เช่น การปลอมใบเสร็จรับเงิน เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี หรือการปลอมใบเสร็จค่าน้ำค่าไฟเพื่อไม่ต้องจ่ายเงินค่าบริการจริง
  • การกระทำในความผิดส่วนบุคคล: การใช้เอกสารปลอมเพื่อหลอกลวงหรือทำร้ายบุคคลอื่น เช่น การปลอมใบหนังสือรับรองบุตร หรือใบรับรองว่ามีการแต่งงานกับบุคคลอื่น

การกระทำเหล่านี้มีโทษความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดประเภทเอกสารปลอม พ.ศ. 2550 มาตรา 6 โดยมีโทษทางอาญาตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000 บาทถึง 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือเสียความเป็นผู้เสียหาย หรือมีการประมาทเป็นผู้เสียหาย ซึ่งขึ้นอยู่กับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำเหล่านี้ด้วย โดยการกำหนดโทษขึ้นอยู่กับคำพิพากษาของศาล

ใช้รถป้ายแดงแท้ต้องจดบันทึกข้อมูลการใช้รถลงในสมุดคู่มือประจำรถ

ใช้งานรถที่มีป้ายแดงต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบการใช้งานรถยนต์ที่ได้รับอนุมัติจากกรมการขนส่งทางบกของกระทรวงคมนาคม ซึ่งส่วนมากจะระบุว่าผู้ใช้รถที่มีป้ายแดงจะต้องจดบันทึกข้อมูลการใช้รถลงในสมุดคู่มือประจำรถ เพื่อเป็นการตรวจสอบว่ารถได้ถูกใช้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้หรือไม่

ข้อมูลที่ควรจดบันทึกลงในสมุดคู่มือประจำรถสามารถรวมถึง

  1. วันที่และเวลาที่ใช้รถ: บันทึกวันที่และเวลาที่รถได้ถูกใช้งาน รวมถึงเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการใช้งาน
  2. เหตุผลการใช้รถ: ระบุเหตุผลหรือวัตถุประสงค์ในการใช้รถ เช่น ใช้รถเพื่อเดินทางไปที่ทำงาน, เดินทางไปร้านค้า, หรือใช้รถในกรณีฉุกเฉิน
  3. สถานที่ที่ใช้รถ: ระบุสถานที่ที่รถได้ถูกใช้งาน เช่น ที่อยู่ปัจจุบัน, สถานที่ที่แวะหยุด, หรือสถานที่ที่รถได้เข้าไป
  4. ระยะทางที่เดินทาง: บันทึกระยะทางที่รถได้เดินทางไป โดยการระบุระยะทางที่เริ่มต้นและสิ้นสุดการเดินทาง
  5. ชื่อและตำแหน่งของผู้ใช้รถ: ระบุชื่อและตำแหน่งของผู้ใช้รถ เช่น ชื่อคนขับ, ชื่อผู้โดยสาร, หรือตำแหน่งของผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้รถ
  6. สัญญาณเสียงแสดงถึงเพลงช้าง ที่ระบุคนขับใช้รถ โดยที่ผู้ใช้รถไม่มีหรือเสียเงินไม่มากจนหรือเป็นผู้ที่ใช้คนขับไม่ใช่ตนเอง

โปรดทราบว่าข้อกำหนดและการจดบันทึกข้อมูลอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับท้องถิ่นและกฎหมายที่ใช้ในแต่ละที่ ดังนั้นควรตรวจสอบกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานรถในพื้นที่ที่คุณต้องการใช้งานในขณะนี้

เครดิต